การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation)

การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation)

การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation)

                การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation) การแยกภาพออกเป็นส่วน ๆ จะทำให้สามารถแยกภาพส่วนที่ต้องการออกจากส่วนอื่น ๆ วิธีการพื้นฐานสำหรับการแยกภาพออกเป็นส่วน ๆ คือ การพิจารณา Image Amplitude (ได้แก่การพิจารณาความสว่างของภาพสำหรับภาพแบบ Gray Scale และความแตกต่างของสีสำหรับภาพสี) นอกจากนี้ขอบของภาพและลักษณะของ Texture ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้สามารถทำการแบ่งแยกภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยทั่วไปการแยกภาพออกเป็นส่วน ๆ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

                – Amplitude Segmentation Method เป็นวิธีการแยกองค์ประกอบของภาพโดยดูจากความเหมือนกันของคุณสมบัติของพิกเซลภายในพื้นที่เพียงอย่างเดียวเช่นวิธีการ Intensity Thresholding เป็นการแยกแยะวัตถุจากฉากหลังโดยดูจาก Intensity ของพิกเซลเป็นหลัก ข้อดีของวิธีการนี้คือมีขั้นตอนในการทำงานที่ง่ายไม่ซับซ้อนทำงานได้รวดเร็ว แต่ข้อเสียคือไม่สามารถใช้กับภาพที่มีสัญญาณรบกวนมากหรือภาพที่มีความสว่างไม่สม่ำเสมอกัน

                –  Region Segmentation Method เป็นวิธีการแยกองค์ประกอบของภาพ โดยดูจากตำแหน่งของพิกเซลและความเหมือนกันของคุณสมบัติของพิกเซลภายในพื้นที่เป็นหลัก โดยถ้าพิกเซลที่อยู่ติดกันและมีคุณสมบัติเหมือนกันจะถูกจัดให้เข้ากลุ่มเดียวกัน ข้อดีของการทำเช่นนี้จะได้พื้นที่ต่อเนื่องกัน ปัญหาอุปสรรคของวิธีการนี้คือการกำหนดกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมที่ใช้ตรวจสอบว่าพิกเซลนั้นที่มีคุณสมบัติเหมือนกันเพื่อใช้ในการรวมกลุ่มเข้าด้วยกันทำได้ยาก วิธีการเหล่านี้อาศัยอัลกอริทึมและโครงสร้างข้อมูลที่ซับซ้อนการประมวลผลใช้เวลานาน

                –  Edge Segmentation Method เป็นวิธีการแยกองค์ประกอบของภาพโดยอาศัยความไม่ต่อเนื่องของคุณสมบัติของพิกเซลที่บริเวณขอบของวัตถุ ดังนั้น วิธีการนี้จึงมุ่งที่จะตรวจหาขอบของวัตถุเป็นข้อดีของวิธีการนี้คือ มีความรวดเร็วในการประมวลผลเพราะวิธีการนี้ใช้เฉพาะข้อมูลบริเวณขอบของวัตถุเท่านั้น ส่วนข้อเสียของวิธีการนี้คือผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ในรูปของ “ขอบ” ของวัตถุซึ่งอาจจะต้องผ่านกระบวนการอื่นอีกต่อหนึ่ง จึงจะสามารถใช้งานได้ นอกจานี้ขอบของวัตถุที่ได้อาจไม่ต่อเนื่องถ้าวัตถุมีสีที่ไม่สม่ำเสมอ

Haar-like feature

                การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation) การหาคุณลักษณะของใบหน้า (Feature) ในภาพจะใช้ตัวกรอง (Filter) ตาม ลักษณะพื้นฐานของ Haar wavelet จึงเรียกว่า Haar-like feature และ ตัวกรองจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม และแบ่งเป็น 2 ส่วนคือสีขาวและสีดำ ในการทำงาน ภาพจะถูกกรอง ด้วยตัวกรอง ที่มีขนาดต่าง ๆ กันและรูปร่างของใบหน้าที่ได้จากตัว กรองนี้จะนำไปใช้ในการกำหนดลักษณะของตัวจำแนกอย่างอ่อน (Weak classifier) ดังในสมการที่ (11) และ (12) ต่อไป

                ขั้นตอนวิธีการเรียนรู้แบบ AdaBoost (Ada-Boost algorithm) เป็นขั้นตอนวิธีการเรียนรู้เพื่อค้นหาค้าของกลุ่ม พิกเซลที่มีลักษณะใกล้เคียงกับภาพนำเข้า โดยที่ภาพ positive คือ ภาพตัวอย่างวัตถุที่ต้องการตรวจจับส่วนภาพ negative คือ ภาพทั่วๆ ไปที่ไม่ใช่วัตถุที่ต้องการตรวจจับ ซึ่งการจำแนกกลลุ่มของพิกเซล จะทำ ภายในส่วนย่อย (sub window) ของภาพ โดยใช้ตัวจำแนกอย่างอ่อนของ feature ที่ hj (x) ที่หาได้จากสมการที่ 11

การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation)

เมื่อ f(x) คือค่าความแตกต่างของผลรวมพิกเซลในพื้นที่ขาว และดําของ Haar-like feature มีค่าตามสมการที่ 12

การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation)

โดยที่ x คือภาพตัวอย่าง และ sum คือผลรวมของ ภาพอินิกรัล ในบริเวณพื้นที่สีขาวและดำ ของ x Ada Boost learning algorithm เป็นวิธีหาค่าตัวจำแนกอย่างอ่อน ที่มี ความผิดพลาดของน้ำหนักน้อยที่สุด ht เพื่อนำไปปรับน้ำหนักใน รอบถัดไป (t +1) โดยเลือกส่งเสริม (boosting) น้ำหนักตัวที่ไม่ผ่านการจำแนก แต่ลดน้ำหนักตัวที่ผ่าน การจำแนกตามขั้นตอนวิธี

การหาวงกลมในภาพถ่าย (circle Hough transform)

                การสร้าง accumulator cell ในกรณีวงกลมจะเป็น A(i,j) 3 มิติ ซึ่งพารามิเตอร์จะประกอบด้วย Cx, Cy และ r สำหรับวิธีการคำนวณหาพิกัด x และ y ที่อยู่บนวงกลมหรือส่วนโค้งอันเดียวกันจะใช้วิธีการเช่นเดียวกันกับกรณีของเส้นตรง ในทำนองเดียวกันการหาส่วนโค้งและวงกลมด้วย Circle Hough transform จะใช้สมการที่ 13

การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation)

โดยที่ cx,cy คือ จุดศูนย์กลางของวงกลมในแนวแกน x และ y

                                     r  คือ รัศมีของวงกลมหรือส่วนโค้ง

                การสร้าง accumulator cell ในกรณีวงกลมจะเป็น A(i,j) 3 มิติ ซึ่งพารามิเตอร์จะประกอบด้วย cx,cy  และ     r  สำหรับวิธีการคำนวณหาพิกัด x และ y ที่อยู่บนวงกลมหรือส่วนโค้งอันเดียวกัน จะใช้วิธีการเช่นเดียวกันกับกรณีของเส้นตรง

การแยกภาพออกเป็นส่วน (Image Segmentation)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *