ยกระดับโรงงาน

ยกระดับโรงงานด้วยเทคโนโลยี AI

ยกระดับโรงงานด้วยเทคโนโลยี AI กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม เป็นกลุ่มที่มีจำนวนบุคคลกรภายในโรงงานไม่ต่ำกว่า 100 คนจะมีอะไรบ้างที่ช่วยคัดกรองบุคคลากรเหล่านั้นให้เกิดความปลอดภัยจากโรคร้ายยกระดับความรวดเร็วในคัดกรองบุคคลแถมช่วยให้โรงงานนั้นๆมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพิ่มขึ้นจะมีโซลูชั่นแบบใดที่จะช่วยให้บุคคลากรปลอดภัยที่สุดจากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ได้ เริ่มต้นด้วยเทคโนโลยีแรก Mini Ming-Ji Intelligent Temperature Detection โดยอุปกรณ์นี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบอุณหภุมิบุคคลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะช่วยกระชับเวลาในการตรวจสอบในเวลาเร่งด่วนได้อย่างดี โดยเฉพาะช่วงเวลาเช้า ทางเดินเข้าภายในโรงงานจะมีบุคคลเข้าภายในโรงงานเป็นจำนวนมาก หากเป็นโซลูชั่นปัจจุบัน ในบางโรงงานอาจจะมี Handheld Infrared Thermometre ยิงตรวจจับทีละบุคคล ซึ่งจะต้องเวลา 3-6 วินาทีต่อคน หากมีคนเข้าโรงงานเป็นเป็นนวนมากก็จะใช้เวลาเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้การลงเวลาเข้าทำงานสำหรับบางท่านเกิดปัญหาขึ้น Mini Ming-Ji นี้จะช่วยลดเวลาในการตรวจจับได้อย่างดีขึ้นมาก และหากพบว่าบางท่านที่มีอุณหภูมิเกินก็สามารถตรวจสอบด้วย Handheld อีกครั้งหนึ่งได้เช่นกัน เป็นอุปกรณ์ Smart AI ที่จะช่วยในการตรวจจับอุณหภูมิที่มีความแม่นยำสูง และยังทำงานได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงตรวจสอบบุคคลด้วยการประมวลผลเปรียบเทียบใบหน้า ด้วยเอกลักษณ์จาก ShuffleNet Algorithm Model อัจฉริยะอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Megvii ที่จะช่วยประมวลความซับซ้อนของใบหน้าที่แม่นยำ โดย Mini Ming-Ji สามารถประมวลพร้อมๆกันได้ถึง 3-4 คนต่อวินาทีพร้อมๆกัน โดยมีความแม่นยำ +-0.3 องศา และ มาพร้อมกับ Passive Blackbody Radiation อีกด้วย ถือว่า เบ็ดเสร็จใน Package เดียว

อุปกรณ์ AI ให้เช่าในโรงงาน Recognition Access Control Platform

ยกระดับโรงงานด้วยอุปกรณ์ AI ให้เช่าในโรงงานเป็นเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าที่สามารถวิเคราะห์ใบหน้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถใช้งานลงเวลาการเข้างานของหนักงานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถตรวจจับวิเคราะห์บุคคลได้ 2-5 ใบหน้าภายใน 1 วินาที และสามารถใช้งานในลักษณะระบบ Access Control ได้ โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น Employee, VIP, Visitor, Blacklist พร้อมกันนี้ระบบ Koala สามารถใช้งานควบคุมกับอุปกรณ์ Shenxing PAD Terminal ของ Megvii ได้ด้วยเช่นกัน Koala Server อุปกรณ์ที่จะช่วยควบคุมและบริหารการจัดการอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม โดยระบบ Koala Platform สามารถเชื่อมต่อกับกล้องได้หลายยี่ห้อที่รองรับ RTSP Protocal โดยระบบจะทำการดึง Stream ภาพมาเพื่อวิเคราะห์บน Server และเก็บ History ไว้สำหรับการแสดงรายงาน และสามารถส่งผลลัพธ์เพื่อแสดงผลออกทางหน้าจอผ่าน Signage Box ได้อีกด้วย เพื่อยืนยันบุคคลว่าบุคคลนั้นเป็นใครได้ การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ artificial intelligence (AI) สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่ถูกกล่าวถึงในยุคของการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 โดยในอุตสาหกรรมการผลิตระดับโลกที่มีการนำ AI เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต อย่าง Siemens, General Electric, Hitachi หรือ Boeing ล้วนมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต  ลดต้นทุน ยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย

มุ่งพัฒนาให้ AI มีความชำนาญเฉพาะด้าน

ยกระดับโรงงานด้วยเทคโนโลยี AI ทั้งนี้ ปัจจุบันการใช้ AI ในอุตสาหกรรมการผลิตเชิงพาณิชย์ทั่วโลกยังอยู่ในขั้นต้น หรือที่เรียกว่า “artificial narrow intelligence” ซึ่งมุ่งพัฒนาให้ AI มีความชำนาญเฉพาะด้าน ตัวอย่างเช่น การตรวจจับและวิเคราะห์คุณภาพสินค้า หรือการตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรเพื่อพยากรณ์การซ่อมบำรุงล่วงหน้า ซึ่งการนำ AI มาปรับใช้ควบคู่กับเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต มีเทคโนโลยี 4 อย่างที่น่าสนใจ เทคโนโลยีแรก คือ การให้ AI วิเคราะห์และประเมินโอกาสที่จะเกิดปัญหาหรือความเสียหายของเครื่องจักรในกระบวนการผลิต หรือคาดการณ์การซ่อมบำรุงล่วงหน้าจากข้อมูลของเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง ที่เรียกว่า “AI-enhanced predictive maintenance” เทคโนโลยีที่สอง คือ การสร้างแบบจำลองกระบวนการผลิตคู่ขนานไปกับการผลิตจริง หรือ “digital twin” โดยใช้ AI วิเคราะห์และคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต ผ่านการทำงานควบคู่ไปกับการเก็บข้อมูลแบบ real-time ของระบบ cloud และ IOT เทคโนโลยีที่สาม คือ การนำ AI มาช่วยวิเคราะห์กระบวนการผลิต และคำนวณการสั่งซื้อวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนต่าง ๆ รวมไปถึงการจำลองเหตุการณ์กรณีการปรับเพิ่ม-ลดผลิตภัณฑ์ในสายการผลิต ที่เรียกว่า “AI-enhanced supply chain management” และเทคโนโลยีสุดท้าย คือ “human-robot collaborative” โดยให้ AI เข้ามาควบคุม และเรียนรู้ในระบบ machine learning ของเครื่องจักร หรือหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็วในการทำงานร่วมกับมนุษย์ และลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุภายในโรงงานซึ่งจากการศึกษาของ McKinsey พบว่า การนำ AI เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้ 20% ลดระยะเวลาการหยุดผลิตเพื่อซ่อมบำรุงได้ 20% อีกทั้งยังสามารถลดความผิดพลาดในการจัดการระบบห่วงโซ่อุปทานได้มากถึง 50%

Adoption Rate ของ AI ในภาคการผลิตยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ

ยกระดับโรงงานด้วยเทคโนโลยี AI สอดคล้องกับรายงานของ General Electric ในปี 2016 ที่พบว่า การนำ AI มาปรับใช้ควบคู่กับเทคโนโลยีข้างต้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานในอินเดียได้ 18% ลดระยะเวลาซ่อมบำรุงของโรงงานในมิชิแกนได้มากกว่า 20% และลดค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อชิ้นส่วนได้มากกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว อนึ่งแม้ว่าการนำ AI มาปรับใช้ในกระบวนการผลิตจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ ทั้งในด้านการผลิต การจัดการสินค้าคงคลัง และด้านความปลอดภัย แต่เราพบว่า adoption rate ของ AI ในภาคการผลิตยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำในปัจจุบัน จากความกังวลในเรื่องความคุ้มทุน และปัญหาด้านบุคลากร ทั้งนี้ จากรายงานของ PwC ปี 2018 ซึ่งสำรวจ 1,155 บริษัททั่วโลกพบว่า มีเพียง 29% เท่านั้นที่มีแผนจะนำ AI มาใช้ในกระบวนการผลิตภายในปี 2023 และมีเพียง 98 บริษัทที่มีการนำ AI มาใช้แล้วจริง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียงราว 8% ของบริษัททั้งหมดที่ทำการสำรวจ โดยเกือบทั้งหมดเป็นบริษัทที่มีความก้าวหน้า หรือเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมในเทคโนโลยีดิจิทัล ขณะที่ฝั่งของผู้ประกอบการไทยเองก็มีแนวโน้มในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภาคการผลิตค่อนข้างช้าเช่นเดียวกัน

รับส่งของไปต่างประเทศ, ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry, ส่งของไปต่างประเทศใกล้ฉันส่งของไปต่างประเทศ DHLส่งพัสดุไปต่างประเทศ ราคาถูกส่งพัสดุไปต่างประเทศ ไปรษณีย์ไทยส่งของไปต่างประเทศ Kerry ราคา, ส่งของไปต่างประเทศ DHL ราคา, ส่งของไปต่างประเทศ Pantipส่งของไปต่างประเทศเกาหลีส่งของไปต่างประเทศ ขนส่งไหนดีส่งพัสดุไปต่างประเทศ ราคาถูก, ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Pantipส่งพัสดุไปต่างประเทศ ใกล้ฉัน

ยกระดับโรงงาน