Next Shipping ส่งของไปญี่ปุ่น ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry

Next Shipping ส่งของไปญี่ปุ่น ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry

Next Shipping ส่งของไปญี่ปุ่น ส่งของไปต่างประเทศใกล้ฉัน

Next Shipping ส่งของไปญี่ปุ่น ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศยอดนิยมของคนไทยทั้งการไปเที่ยว ไปทำงาน และไปเรียน ปัจจุบันมีคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากทั้งนักเรียน นักศึกษา และคนทำงาน ในมุมกลับกันก็มีคนญี่ปุ่นที่เข้าอยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ด้วยความที่ไทยเป็นฐานการผลิตใหญ่ของบริษัทญี่ปุ่น ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทยมากกว่า 5,000 บริษัท ทำให้มีชาวญี่ปุ่นเข้ามาทำงานในประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก Next Shipping นอกจากการมีประชากรย้ายเข้าไปอยู่อาศัยระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว การค้าขายระหว่างไทยกับญี่ปุ่นก็ยังสูงเป็นอันดับต้นๆของการส่งออกประเทศไทย ด้วยปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้ในแต่ละปีมีการส่งออกสินค้าจากไทยไปญี่ปุ่นและจากญี่ปุ่นมาที่ไทย ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก เรื่องหนึ่งที่หลายๆคนมักจะเกิดความสงสัยเวลาส่งของไปญี่ปุ่นก็คือภาษีส่งของไปญี่ปุ่น ต้องเสียภาษีอย่างไร สำหรับหลายๆท่านที่ต้องการส่งของไปญี่ปุ่น ไม่ว่าจุดประสงค์เพื่อการขายสินค้าหรือจะเป็นการส่งของไปให้คนในครอบครัว สิ่งที่หลายๆคนมักจะเกิดความสงสัยก็คือ การส่งของไปญี่ปุ่นจะต้องเสียภาษีหรือไม่ เสียอย่างไร ส่งของไปต่างประเทศ DHL แล้วมีภาษีอะไรบ้างที่จะต้องจ่าย เรามาแกะเรื่องภาษีในการส่งของไปญี่ปุ่นไปพร้อมกัน รวมถึงวิธีคำนวนภาษีสำหรับการส่งของไปญี่ปุ่นด้วย โดยเริ่มต้นจากภาษีนำเข้าของญี่ปุ่นกันก่อน ส่งของไปต่างประเทศใกล้ฉัน

ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry ภาษีนำเข้า

Next Shipping ส่งของไปญี่ปุ่น ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry  ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry ภาษีนำเข้า คือ ภาษีที่รัฐบาลแต่ละประเทศเรียกเก็บจากผู้นำสินค้าเข้ามาในประเทศนั้นๆ โดยผ่านพิธีการศุลกากร ไม่ว่าจะนำเข้ามาทางน้ำ ทางบก หรือทางอากาศก็ตาม จะมีการเก็บภาษีเพื่อนำไปพัฒนาประเทศ โดยกรมศุลกากรมีหน้าที่จัดเก็บภาษีขาเข้า-ขาออกและภาษีมูลค่าเพิ่ม ทุกประเทศจะมีการจัดเก็บภาษีในการนำสินค้าเข้าประเทศ และญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน ส่งของไปต่างประเทศใกล้ฉัน สินค้าที่นำเข้าประเทศญี่ปุ่นจะต้องเสียภาษีอยู่ 2 ประเภทคือ ภาษีนำเข้าหรืออากรนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้าแต่ละประเภทจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันหรือเรียกว่าพิกัดภาษี บางประเภทอาจจะมีการเรียกเก็บภาษีสูง เพื่อปกป้องการค้าภายในประเทศ ให้ราคาสินค้านำเข้าไม่มีราคาถูกเกินไปจนลดอำนาจการแข่งขันของผู้ผลิตในประเทศ ในขณะเดียวกันก็มีสินค้าบางประเภทที่ได้สิทธิพิเศษทางภาษี ทำให้มีเรตภาษีที่ต่ำ และอาจจะยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าบางประเภทเพื่อกระตุ้นตลาดผ่านโครงการต่างๆที่รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศออกนโยบายร่างกัน เช่นโครงการ GSP ที่ญี่ปุ่นให้สิทธิพิเศษทางภาษีกับประเทศที่กำลังพัฒนา ส่งของไปต่างประเทศใกล้ฉัน ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry สำหรับผู้ที่รักการ Shop สินค้าและสั่งซื้อสินค้าจากประเทศเป็นประจำจะรู้ดีว่า โดยทั่วไปแล้วภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มจะไม่รวมอยู่ในราคาของสินค้าที่สั่งซื้อ และอาจไม่รวมอยู่ในค่าจัดส่งที่จ่ายให้กับผู้ค้าปลีกออนไลน์ด้วย (เว้นแต่จะระบุไว้เป็นการเฉพาะ) ดังนั้น จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้รับปลายทาง (ผู้นำเข้าสินค้า) ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า เมื่อสินค้าไปถึงประเทศปลายทาง Next Shipping

การส่งของไปญี่ปุ่นที่ได้รับการงดเว้นภาษีอากรนำเข้า ส่งของไปต่างประเทศ DHL

สำหรับการส่งของไปญี่ปุ่น สินค้าจะได้รับการงดเว้นเก็บภาษีอากรในกรณีดังนี้ ส่งของไปต่างประเทศ DHL ไม่มีการเรียกเก็บอากรในกรณีส่งของไปประเทศญี่ปุ่น มียอดรวมของราคา CIF (ค่าสินค้า, ค่าประกันภัยและค่าขนส่ง) มูลค่าไม่เกิน JPY10,000  หรือเมื่อคำนวณอากรแล้ว จำนวนรวมไม่เกิน JPY100 ไม่เรียกเก็บภาษีอุปโภคบริโภค (Consumption Tax) ในกรณีส่งของไปประเทศญี่ปุ่น มียอดรวมของราคา CIF (ค่าสินค้า, ค่าประกันภัยและค่าขนส่ง) มีมูลค่าไม่เกิน JPY10,000  หรือการคำนวณภาษีบริโภคจำนวนรวมไม่เกิน JPY100 การส่งของไปประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยกเว้น ภาษีอากรและภาษีบริโภค มีดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ตัวอย่างเช่น กระเป๋าถือ, กระเป๋าหูหิ้ว, ถุงมือ
  • เครื่องนุ่งห่มชนิดถัก เช่น เสื้อยืด, เสื้อยืดถักด้วยขนสัตว์
  • รองเท้า เช่น รองเท้าบู๊ตสกี, รองเท้าหนัง, ที่สวมใส่เท้าทำด้วยหนัง
  • กรุณาตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมงานอีกครั้งก่อนทำการจัดส่งสินค้า

การคำนวณภาษีนำเข้าจะมีวิธีการคำนวณแบบสากลส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry

Next Shipping ส่งของไปญี่ปุ่น ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry วิธีคำนวณภาษีนำเข้า CIF เวลาที่เราจะคำนวนภาษีนำเข้า เราจะไม่ได้เอาราคาสินค้าไปคูณกับอัตราภาษีโดยตรง แต่ภาษีนำเข้าจะคำนวนโดยใช้ CIF แทน

  • C = ราคาสินค้า
  • I = ประกันภัย
  • F = ค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายในการขนส่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเรารู้ว่า CIF แต่ละตัวคืออะไร เราก็จะสามารถคำนวนทั้ง ภาษีนำเข้า และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แล้ว โดยใช้สูตรในการคำนวน คือ

  • ภาษีนำเข้า (อากรขาเข้า) = มูลค่ารวม CIF x อัตราภาษีนำเข้าตามพิกัดภาษีศุลกากร
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม = (CIF + ภาษีนำเข้า) x 7%

ตัวอย่างเช่น สมมุติว่า CIF ซึ่งเป็นมูลค่ารวมของ(ราคาสินค้า + ประกันภัย + ค่าขนส่ง) = JPY100,000 และอัตราอากรขาเข้าคือ 5% ก็จะคิดอัตราอากรขาเข้าได้เท่ากับ = JPY5,000 และจะคิดภาษีมูลค่าเพิ่มได้เท่ากับ (100,000 + 5,000) x 7% = JPY7,350 ดังนั้น มูลค่ารวมภาษีขาเข้าที่ต้องชำระ = 5,000 + 7,350= 12,350 เยน นั่นหมายความผู้รับสินค้านี้จะต้องชำระเงินสำหรับเป็นภาษีนำเข้า 12,350 เยน ในกรณีที่บัญชีราคาสินค้าระบุรายละเอียดค่าประกันภัย และค่าขนส่งของครบแล้ว ให้ใช้ราคาตามบัญชีราคาสินค้านั้น แต่หากไม่มีรายละเอียดค่าประกันภัยและค่าขนส่งของ ให้บวกค่าประกันภัยอีกร้อยละ 1 ของราคา FOB และให้คิดค่าขนส่งของโดยใช้อัตราเฉลี่ยค่าขนส่งของตามพิกัดที่ศุลกากรอนุมัติให้ใช้สำหรับสินค้าเร่งด่วน และสำแดงข้อมูลรายละเอียดของสินค้า และประเภทพิกัด ตามชนิดของที่มีมูลค่ารวมมากที่สุดในใบตราส่งนั้น Next Shipping ส่งของไปญี่ปุ่น ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry 

รับส่งของไปต่างประเทศ, ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Kerry, ส่งของไปต่างประเทศใกล้ฉัน, ส่งของไปต่างประเทศ DHL, ส่งพัสดุไปต่างประเทศ ราคาถูก, ส่งพัสดุไปต่างประเทศ ไปรษณีย์ไทย, ส่งของไปต่างประเทศ Kerry ราคา, ส่งของไปต่างประเทศ DHL ราคา, ส่งของไปต่างประเทศ Pantip, ส่งของไปต่างประเทศเกาหลี, ส่งของไปต่างประเทศ ขนส่งไหนดี, ส่งพัสดุไปต่างประเทศ ราคาถูก, ส่งพัสดุไปต่างประเทศ Pantip, ส่งพัสดุไปต่างประเทศ ใกล้ฉัน