Web Hosting Spec ที่รองรับ WordPress

Web Hosting Spec ที่รองรับ WordPress

Web Hosting Spec ที่รองรับ WordPress

Web Hosting Spec ที่รองรับ WordPress เป็น CMS ที่มีคนใช้งานมากที่สุด และมีการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ฉะนั้นจึงหา Hosting ที่รองรับ WordPress ได้ไม่ยาก แทบจะทุกเจ้า ทุกผู้ให้บริการด้านโฮสติ้ง ที่ออกแพคเกจที่รองรับ WordPress โดยตรง ซึ่งสเปคของโฮสติ้งที่ WordPress แนะนำ PHP เวอร์ชั่น 7.3 หรือ เทียบเท่า MySQL เวอร์ชั่น 5.6 หรือ เทียบเท่า หรือ MariaDB เวอร์ชั่น 10.1 หรือ เทียบเท่า รองรับ SSL หรือ HTTPS อยากให้โฟกัสที่ เวอร์ชั่นของ PHP เป็นหลัก ควรใช้เวอร์ชั่นตามที่แนะนำตรงๆ ถามว่าใช้เวอร์ชั่นที่ต่ำกว่าได้ไหม ตอบว่า ได้ แต่ยิ่งต่ำยิ่งเสี่ยงด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และบางปลํ๊กอินอาจจะไม่รองรับก็ได้ หมายความว่า ยิ่งเราใช้ PHP เวอร์ชั่นต่ำกว่าที่แนะนำ เว็บไซต์เรายิ่งตกอยู่ในความเสี่ยง และทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อีกจุดนึงที่อยากให้โฟกัสเช่นกัน คือ รองรับ SSL หรือ HTTPS สังเกตง่ายๆ  ถ้าเว็บไซต์ไหนที่ไม่ได้ติดตั้ง SSL ที่มุมบนซ้าย ถ้าไม่มี SSL มันจะขึ้นว่า ไม่ปลอดภัยสีแดงๆ ทำให้เสียความน่าเชื่อถือ และอีกปัญหานึงถ้าใช้ PHP เวอร์ชั่นที่ต่ำกว่า 7.3 คือ ปลั๊กอินบางตัวทำงานไม่สมบูรณ์ หรือ ไม่รองรับนั่นเอง เช่น ปลั๊กอินสร้างร้านค้าออนไลน์ชื่อดังอย่าง Woocommerce มันต้องใช้สเปคของโฮสติ้งที่มี PHP version 7.2 เป็นต้นไป และปัญหาสุดท้าย น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดเลย คือ เพิ่มโอกาสทำให้เว็บโดน Hack มากขึ้น เทคนิคการเลือก WordPress Hosting ให้เหมาะกับเว็บไซต์ รับเขียนโปรแกรม เขียน ภาษา ไพ ทอน ขอนแก่น

  1. เลือก Web Hosting ให้ตรงกับประเภทเว็บไซต์

ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า เว็บไซต์เราเป็นประเภทไหน เล็กใหญ่แค่ไหนละ แล้วมันมีฟังก์ชันอะไรหนักๆ หรือเปล่า ผมขอแบ่งเป็น 3 ประเภท ใหญ่ๆ เว็บไซต์ขนาดเล็ก เว็บไซต์ขนาดกลาง เว็บไซต์ขนาดใหญ่

  • เว็บไซต์ขนาดเล็ก

จะเป็นเว็บไซต์ธรรมดาทั่วไป เว็บไซต์บริษัท ที่มีเมนู 1-8 เมนู เป็นข้อมูลข้อความผสมกับรูปภาพในจำนวนไม่เยอะ และ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ในแต่ละเดือนประมาณ 10,000 Visits โดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน เมนู : 1-8 เมนู ผู้เข้าชมเฉลี่ย 10,000 / เดือน พื้นที่โฮสติ้งที่ควรใช้ไม่เกิน 10 GB

 

  • เว็บไซต์ขนาดกลาง

จะเป็นเว็บไซต์ธรรมดาทั่วไป เว็บไซต์บริษัท เว็บไซต์องค์กรที่มีโครงสร้างและข้อมูลเยอะ รวมถึงเว็บไซต์ e-commerce ที่มีสินค้าประมาณ 500-1,000 ชิ้น แต่มีเมนูมากกว่า 10+ เมนู เป็นข้อมูลข้อความผสมกับรูปภาพในจำนวนไม่มากเกินไป และ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ในแต่ละเดือนประมาณ 25,000 Visits โดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน เมนู 10+ เมนู ผู้เข้าชมเฉลี่ย 25,000 / เดือน พื้นที่โฮสติ้งที่ควรใช้ ไม่เกิน 20 GB

  • เว็บไซต์ขนาดใหญ่

จะเป็นเว็บไซต์องค์กรขนาดใหญ่ เว็บไซต์ e-commerce ที่มีสินค้าประมาณ 1,000+ ชิ้น หรือเว็บไซต์ที่เป็นฮับให้ลงข้อมูลฟรี เช่น พวกเว็บฝากร้าน ฝากขายต่างๆ แต่มีเมนูมากกว่า 30+ เมนู เป็นข้อมูลข้อความผสมกับรูปภาพในจำนวนไม่มากเกินไป และ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ในแต่ละเดือนประมาณ 100,000+ Visits โดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน เมนู 30+ เมนู ผู้เข้าชมเฉลี่ย 100,000 / เดือน พื้นที่โฮสติ้งที่ควรใช้ 40 GB++ จำนวนเมนู, ผู้เข้าชมเฉลี่ย, พื้นที่โฮสติ้ง ผมแค่ประเมินจากประสบการณ์ที่เคยทำเว็บไซต์ให้ลูกค้านับไม่ถ้วน

แต่ถามว่าถ้าเช่าพื้นที่โฮสติ้ง มากกว่า หรือ น้อยกว่า จะเป็นอะไรไหม ก็จริงๆ ก็ได้แหละ แต่อาจจะเกินจำเป็นไปนิด ไม่ก็ถ้าน้อยไป ก็อาจจะไม่พอจนทำให้เว็บล่มบางเวลา ทั้งนี้อยากให้เลือกตามการใช้งานจริง โดยจำข้อมูลที่ผมบอกไป ไปประกอบการพิจารณา ไม่มีถูกหรือผิด Web Hosting Spec ที่รองรับ WordPress

Web Hosting รองรับการติดตั้งแบบ One-Click Installation

One-Click Installation คือ ระบบการติดตั้งอย่างง่าย ผ่าน Control Panel ทำให้เราสามารถติดตั้ง WordPress ได้ในไม่กี่นาที โดยที่ไม่ต้องอัพโหลดไฟล์ด้วยตัวเองให้วุ่นวาย สำหรับคนที่รับทำเว็บไซต์ WordPress โดยตรง หรือโปรแกรมเมอร์ คิดว่าคงไม่มีปัญหาสำหรับการติดตั้ง WordPress ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม แต่สำหรับมือใหม่พึ่งรู้จัก หรือกำลังเริ่มจะทำเว็บไซต์ WordPress ด้วยตัวเอง อาจจะยังไม่เข้าใจว่า FTP คืออะไร Database คืออะไร จะให้ติดตั้งแบบดิบๆ อย่างนั้นคงจะยุ่งยากไป ฉะนั้นวิธีการติดตั้ง WordPress ที่ง่ายที่สุด 

ก็คือ ติดตั้งแบบ One-Click คลิกๆ ไม่กี่ทีก็ได้เว็บไซต์มาแล้ว แต่ต้องอาศัยการติดตั้งผ่านระบบ Control Panel เช่น Direct Admin, Plesk, cPanel etc… ส่วนใหญ่เกือบจะทุกโฮสติ้งจะมีระบบ Control Panel ให้เราใช้เกือบจะทุกเจ้าแล้ว เวอร์ชั่น PHP ขั้นต่ำที่รองรับ WordPress ต้องการ PHP เวอร์ชั่น 7.3 หรือ เทียบเท่า ถ้าติดตั้งด้วยเวอร์ชั่นต่ำกว่าจะได้ไหม คำตอบคือ ได้ แต่อาจจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์ 100% และอาจจะส่งผลให้ปลั๊กอินบางตัวไม่ทำงานด้วย เหตุผลที่ทาง WordPressให้ใช้ PHP เวอร์ชั่นสูงๆ เหตุผลหลักก็คือด้าน ความปลอดภัย หลายๆ เว็บไซต์โดนมัลแวร์ หรือ โดน Hack ปัจจัยนึงก็มาจากการที่ใช้โฮสติ้งรุ่นเก่าที่ใช้ PHP รุ่นเก่ามากๆ และอีกเหตุผลนึงที่น่าสนใจมากๆ คือ เรื่องความเร็ว หรือ Speed ในการโหลด เรามาดูรูปด้านล่าง ที่เปรียบเทียบ PHP เวอร์ชั่น 5.6 – 7.3 ทำไมควรใช้ PHP เวอร์ชั่น 7.3 เป็นต้นไป เพื่อให้ WordPress ทำงานได้สมบูรณ์ 100% เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการโดนแฮก เพื่อให้เว็บไซต์โหลดไวขึ้น Web Hosting Spec ที่รองรับ WordPress รับเขียนโปรแกรม เขียน ภาษา ไพ ทอน

Web Hosting มี SSL แบบฟรีให้เราใช้ SSL / https

SSL / https คือ การเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการรับ-ส่งข้อมูล ระหว่างฝั่ง Server หรือ โฮสต้ิงที่เก็บข้อมูล กับเว็บเบราเซอร์ ผ่านโปรโตคอล HTTPS SSL มีหลายประเภททั้งแบบฟรี และเสียเงิน แต่ส่วนใหญ่ที่มากับโฮสติ้ง และให้เราใช้ได้ฟรี คือประเภท Let’s Encrypt (LE) ข้อดีของการเปิดใช้งาน SSL คือ ช่วยให้เว็บไซต์เราปลอดภัยยิ่งขึ้น น่าเชื่อถือ เพราะเบราเซอร์เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่มี SSL ให้สังเกตที่ด้านหน้าชื่อโดเมน จะขึ้นว่า “Not Secured” “ไม่ปลอดภัย” เป็นสีแดงๆ และยังส่งผลเสียต่ออันดับ SEO บนกูเกิลด้วยนะ ดังนั้นก่อนที่จะเช่าโฮสติ้งที่ไหน ควรสอบถามก่อนว่า รองรับ ฟรี SSL หรือเปล่า จริงๆ เว็บไซต์สมัยใหม่ควรติดตั้ง SSL หรือ https เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว Web Hosting ที่มี Speed และ Caching ความเร็วของเว็บไซต์ (Speed) เป็นปัจจัยหลักของเว็บไซต์ตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยเทรนด์การเข้าเว็บไซต์เทไปทางมือถือเกิน 50% ไปแล้ว ทำให้เราต้องให้ความสำคัญกับมือถือเป็นหลัก เมื่อพูดถึงเน็ตมือถือ แต่ละคนใช้แพคเกจไม่เหมือนกันเลย เร็วบ้าง ช้าบ้าง ถ้าบังเอิญคนที่เน็ตช้าเข้าเว็บไซต์เรา แล้วต้องรอนาน ใครจะไปรอถูกไหม Web Hosting Spec ที่รองรับ WordPress รับเขียนโปรแกรม เขียน ภาษา Python ขอนแก่น